Leave the World Behind (2023) Movie Review
Leave the World Behind (2023) Movie Review
Blog Article
รีวิวหนัง Leave the World Behind (2023)
ประเภทของภาพยนตร์: ดรามา / ระทึกขวัญ
วันที่เข้าฉาย: 8 ธันวาคม 2023
ผู้กำกับ: แซม เอสเมลล์
นักแสดงนำ: จูเลีย โรเบิร์ตส์, มาเฮิร์ซชาลา อาลี, อีธาน ฮอว์ก
ความยาว : 138 นาที
เรื่องย่อ:
ดูหนังใหม่ อแมนดา แซนด์ฟอร์ด ผู้เกลียดชังมนุษยชาติ จัดเตรียมการพักผ่อนสุดสัปดาห์แบบไม่ทันตั้งตัวที่บ้านพักตากอากาศกับเคลย์ สามีของเธอ และอาร์ชี และโรส ลูกๆ ของพวกเขา หลังจากไปถึงที่เช่าแล้ว อแมนดาก็ไปที่ร้านค้า ขณะกำลังซื้อของชำ อแมนดาเห็นชายคนหนึ่งกำลังตุนอาหารกระป๋องและน้ำไว้เป็นจำนวนมาก ต่อมา ขณะที่ครอบครัวกำลังพักผ่อนที่ชายหาดใกล้ๆ พวกเขาหลบเลี่ยงเรือบรรทุกน้ำมันที่ชนเข้ากับฝั่ง เมื่อพวกเขากลับมาถึงบ้าน พวกเขาสังเกตเห็นว่าทีวีและ Wi-Fi ไม่ทำงาน และกวางสองตัวจ้องมองพวกเขา
คืนนั้น เจ้าของบ้าน จอร์จ เอช. ("จีเอช") สก็อตต์ และรูธ ลูกสาวของเขา มาถึงบ้าน จีเอชพยายามหาที่หลบภัยและอธิบายว่าไฟดับทำให้พวกเขาต้องกลับมา อแมนดารู้สึกสงสัยและไม่ต้องการให้พวกเขาอยู่ต่อ อย่างไรก็ตาม เคลย์ไว้ใจพวกเขาและให้พวกเขาพักค้างคืนที่นั่น ต่อมาในคืนนั้น โทรทัศน์จะเปลี่ยนเป็นแสดงคำเตือนฉุกเฉินจากระบบออกอากาศฉุกเฉินในทุกช่อง
เช้าวันรุ่งขึ้น โรสรู้สึกหงุดหงิดที่ Wi-Fi และทีวียังไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งทำให้เธอไม่สามารถดูตอนจบซีรีส์เรื่องFriendsได้ อแมนดาสังเกตเห็นการแจ้งเตือนข่าวสี่รายการบนโทรศัพท์ของเธอ โดยสองรายการเกี่ยวกับไฟฟ้าดับที่ส่งผลกระทบต่อชายฝั่งตะวันออกรายการที่สามเกี่ยวกับการโจมตีของแฮ็กเกอร์ที่อยู่เบื้องหลังไฟดับ และรายการสุดท้ายเริ่มต้นด้วยคำว่า "Breaking" และมีข้อความที่เสียหายหรือเข้ารหัส โรสเห็นฝูงกวางขนาดใหญ่กว่ามากยืนนิ่งอยู่ในสวนหลังบ้าน
ขณะพยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับการหยุดชะงักและซ่อมแซม Wi-Fi Clay ขับรถเข้าเมืองในขณะที่ จีเอช มุ่งหน้าไปที่บ้านของเพื่อนบ้าน Clay หลงทางและออกจากรถเพื่อมองไปรอบๆ ทำให้พลาดการรับสัญญาณที่ชัดเจนสองสามวินาทีจากวิทยุที่ออกอากาศข่าวเกี่ยวกับการโจมตีทางไซเบอร์ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างหายนะในภาคใต้เขาพบผู้หญิงที่พูดภาษาสเปนกำลังขอความช่วยเหลือ
แต่กลับละทิ้งเธอ และในที่สุดก็พบกับโดรนที่ทิ้งแผ่นพับที่เขียนเป็นภาษาอาหรับ จีเอช ค้นหาบ้านของเพื่อนบ้าน พบโทรศัพท์ดาวเทียมภายในบ้าน และพบว่าไม่มีสัญญาณจากดาวเทียม บนชายหาดใกล้เคียง เขาพบซากเครื่องบินที่ตกก่อนจะรอดพ้นจากเครื่องบินโดยสารลำ อื่น ที่ตกได้ อย่างหวุดหวิด
โรสเดินเล่นกับอาร์ชีในป่า ซึ่งพวกเขาเจอโรงเก็บของว่างเปล่า และอาร์ชีก็เอาเห็บที่ข้อเท้าออกระหว่างทางกลับ เมื่อกลับมาถึงบ้าน จีเอชเล่าเหตุการณ์ที่เขาเห็นให้อแมนดาฟัง เขาคิดว่าการเชื่อมต่อดาวเทียมถูกตัดขาด แต่เสียงดังแหลมยาวหลายวินาทีก็ตัดบท อแมนดาจำชายที่กำลังกักตุนเสบียงได้ ซึ่งจีเอชสันนิษฐานว่าเป็นแดนนี่
ผู้รับจ้างของเขา เคลย์กลับมาด้วยอาการสั่นเทิ้มกับแผ่นพับ ซึ่งอาร์ชีแปลว่า " อเมริกามรณะ " ครอบครัวแซนด์ฟอร์ดตัดสินใจขับรถไปหาพี่สาวของอแมนดาในนิวเจอร์ซี แต่พบว่าทางด่วนเต็มไปด้วยรถยนต์เทสลาขับเคลื่อนอัตโนมัติ รุ่นใหม่ที่ชนกัน พวกเขาจึงหลีกเลี่ยงรถเทสลาที่เข้ามาอย่างหวุดหวิดและขับเข้าไปในกองรถที่ชนกัน และถูกบังคับให้กลับไปที่บ้านของจีเอช
ตลอดทั้งคืน รูธถามคำถามท้าทายกับเคลย์ และต่อมาพวกเขาก็พบนกฟลามิงโกในสระน้ำ อแมนดาและจีเอชเริ่มมีความสัมพันธ์ฉันท์มิตร แต่เสียงแหลมดังขึ้นอีกครั้งและไฟดับ ต่อมา โรสเล่าเรื่องเปรียบเทียบชายจมน้ำในตอนหนึ่งของThe West Wingให้ อแมนดาฟัง
เช้าวันรุ่งขึ้น ฟันของอาร์ชีหลุดออกมาอย่างอธิบายไม่ถูก จีเอชเชื่อว่ามันเกี่ยวข้องกับเห็บกัด จึงแนะนำให้ไปหาแดนนี่เพื่อรับยา โรสหายตัวไป จีเอชและเคลย์พาอาร์ชีไปเยี่ยมแดนนี่ ขณะที่อแมนดาและรูธออกตามหาโรส ที่โรงเก็บของ ทั้งสองเผชิญหน้ากับฝูงกวางที่ใหญ่กว่า ซึ่งพวกเขาจึงไล่มันไป จีเอชและเคลย์พยายามโน้มน้าวให้แดนนี่ช่วยอาร์ชี
ซึ่งส่งผลให้เกิดการเผชิญหน้าติดอาวุธระหว่างจีเอชและแดนนี่ เคลย์เข้าแทรกแซงและโน้มน้าวให้แดนนี่ช่วยอาร์ชี แดนนี่แจ้งให้พวกเขาทราบว่าเพื่อนบ้านอีกคนอาจมีบังเกอร์ใต้ดิน และแนะนำว่าเสียงแหลมสูงที่มีแนวโน้มสูงว่าทำให้ฟันของอาร์ชีหลุดออกมานั้นเกิดจากการใช้ไมโครเวฟเป็นอาวุธ
จีเอช ตกใจและบอกกับ Clay และ Archie ว่าจากการที่เขาทำงานร่วมกับผู้รับเหมาทางการทหาร ประเทศกำลังอยู่ในการรณรงค์สามขั้นตอน ซึ่งนำไปสู่การล่มสลายของระเบียบสังคมและส่งผลให้เกิดการรัฐประหารหรือสงครามกลางเมือง ในเวลาเดียวกัน อแมนดา และ รูธ ก็เฝ้าดูนิวยอร์กซิตี้ถูกทิ้งระเบิด จากนั้น โรส ก็พบบ้านของเพื่อนบ้านที่มีหลุมหลบภัย ภายในมีข้อความคอมพิวเตอร์เตือนถึงการโจมตีโดยกองกำลังทหารนอกกฎหมายและระดับกัมมันตภาพรังสีที่สูงในเมืองต่างๆ ของสหรัฐฯ เธอพบดีวีดีเรื่องFriendsและรับชมตอนจบซีรีส์
ความรู้สึกหลังจากชมภาพยนตร์:
Leave the World Behind เป็นเรื่องราวในวันหยุดที่เฝ้าใฝ่ฝันของ อะแมนดา และ เคลย์ กับลูก ๆ วัยรุ่นของพวกเขา ที่เช่าบ้านพักตากอากาศบริเวณชายหาดนิวยอร์ก แต่ถูกขัดจังหวะด้วยการมาเยือนของพ่อลูกผิวสีคู่หนึ่งที่แสดงตัวว่าเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว เพราะมีเหตุการณ์ไฟดับข้างในเมือง ตามมาด้วยอินเตอร์เน็ตใช้ไม่ได้ โทรศัพทไร้สัญญาณ ปล่อยให้พวกเขาถูกตัดขาดจากโลกภายนอกไปชั่วขณะ 2umv.com
"แซม เอสเมลล์" จากซีรีส์ Mr. Robot มารับหน้าที่กำกับดูแลงานสร้างหนังเรื่องนี้ และนับว่าเป็นผลงานหนังฟอร์มใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เขาทำอาชีพนี้มา โดยเขายังรับหน้าที่ดัดแปลงเขียนบทหนังเรื่องนี้ด้วยตัวเองด้วย แน่นอนว่าภาพลักษณ์ของ Leave the World Behind น่าจะดึงดูดใจคอหนังแนวหายนะและวันโลกแตกได้เป็นอย่างดี เพราะมันชวนสื่อสารออกมาเช่นนั้น แต่อย่าเพิ่งไว้วางใจไป เพราะว่ามันซับซ้อนและซ่อนเงื่อนยิ่งกว่าที่เราคิดไว้
ใช่แล้ว มันคือหนังหายนะจิตวิทยาที่ค่อย ๆ ป้อนข้อมูลความวายป่วงใส่คนดูมาทีละเรื่อย ๆ มันเป็นหนังที่มีกลิ่นอายความเป็น เอ็ม.ไนท์. ชยามาลาน กับ จอร์แดน พีล หน่อย ๆ แต่มันอาจจะยังไม่ได้มีเสน่ห์และความน่าหลงใหลเหมือนกับผลงานของพวกเขาเหล่านั้น น่าเสียดายที่สุดท้ายมันเป็นแค่เพียงหนังที่เต็มไปด้วยอะไรที่เดิม ๆ กับช่องโหว่ของบทหนังที่ไม่คมคายเอาเสียเลย
หนึ่งในสิ่งที่ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ก็คืไดอะล็อกบทพูดในหนังที่ติดภาษาที่ไม่ธรรมชาติไปสักหน่อย ยังติดความเป็นนิยายและภาษาเขียน แม้ว่านักแสดงพยายามอย่างเต็มที่แล้วที่จะดีไซน์บทบาทของพวกเขา แต่มันก็ยังออกมาเป็นรสชาติที่แปลกประหลาด และไม่ได้ชวนให้เราหลงใหลได้สักเท่าไหร่นัก เป็นจุดที่น่าเสียดายที่หนังไม่สามารถรั้งคนดูเอาไว้ได้อยู่
Leave the World Behind อาจจะมีการเปิดเรื่องที่ค่อนข้างน่างสนใจ ยอมรับเลยว่า 30-40 นาทีแรกของหนัง ค่อนข้างน่าสนใจดี ปูเรื่องราวได้อย่างน่าสนใจ แต่พอเริ่มจับทิศทางได้ หนังค่อนข้างผละตัวเองให้ออกห่างจากคนดูไปเรื่อย ๆ กลายเป็นองค์ประกอบที่ไม่ค่อยน่าดึงดูดเท่าไหร่ เป็นจุดที่หนังเล่าไปเรื่อย ๆ แบบไม่มีจุดเด่นใด ๆ เปล่งประกายออกมาเหมือนกับช่วงแรกที่เคยทำได้
เอาจริง ๆ หนังเรื่องนี้ค่อนข้างต้องใช้การตีความในระดับหนึ่งเลยทีเดียว เพราะข้อความหลาย ๆ จุดที่หนังใส่เข้ามา บางส่วนเป็นเชิงสัญลักษณ์ที่แฝงไปด้วยการวิเคราะห์ไปถึงความหมายของมัน ถึงจะเป็นสิ่งที่พยายามช่วยดึงรั้งบรรยากาศให้หนังชวนอึดอัดใจ และสร้างความไม่ไว้วางใจแบบทื่อ ๆ ไปเสียง่าย ๆ หนังดูจะพยายามสร้างกิมมิกความเป็นเอกลักษณ์ในตัวเอง แต่น่าเสียดายที่ทำยังได้ไม่ถึงอารมณ์นัก
ทางด้านการแสดงได้ 3 ดาราตัวเป้ง ๆ มาประชันบทบาทกัน "จูเลีย โรเบิร์ตส์" กับ "มาเฮิร์ซชาลา อาลี" คือนักแสดงมืออาชีพที่รับมือกับบทบาทของพวกเขาเอาไว้ได้ดีเสมอตัวอีกครั้ง ถึงมันจะเป็นบทบาทที่ค่อนข้างเลอะเทอะไปสักหน่อยก็ทีเดียว เช่นเดียวกับ "อีธาน ฮอว์ก" ที่แทบจะไม่มีโอกาสได้เจิดจรัสทางการแสดงในหนังเรื่องนี้เลย ทั้งที่มีช่องและจังหวะอยู่หลายทีก็ตาม
สรุปในภาพรวมแล้ว Leave the World Behind คงไม่ใช่หนังเรื่องโปรดในรอบปีนี้ของเรา ไม่รู้ว่าจะเป็นเพราะเคยตั้งความคาดหวังกับหนังเอาไว้หรือเปล่า แต่ผลลัพธ์สุดท้ายก็ไม่มีอะไรที่แปลกใหม่ มีเพียงแค่อาการปั่นประสาทจากสถานการณ์โดยรอบตัวละคร กับตัวละครต่าง ๆ เริ่มตะโกนใส่กันมาขึ้นเรื่อย ๆ กับภาวะที่บีบคั่นประสาทมากขึ้นเรื่อย ๆ
#ดูหนังฟรี #ดูหนังใหม่2024 #LeavetheWorldBehind
กลับด้านบน Report this page